คุณพ่อคุณแม่ที่มีเป้าหมายจะให้ลูกเข้าสอบในโรงเรียนสาธิตต่างๆในปีนี้นั้น    ก่อนอื่นควรทราบเกี่ยวกับเกณท์การรับสมัครดังนี้

โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

อายุที่รับ	รับเด็กที่เกิด 15 ธ.ค. 2557 - 15 ธ.ค. 2558โดยนับอายุถึงวันที่ 15  มิ.ย. 2563
จำนวนที่รับ	130 คน  โดยแบ่งช่วงอายุเด็ก
ขาบใบสมัคร	ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์
สอบ	กลางเดือนมีนาคม
ประกาศผลสอบ	ปลายเดือนมีนาคม
วิชาที่สอบ	ข้อสอบเชาว์ ,ภาษาไทย , ความพร้อม และคณิตศาสตร์
เวลาทีสอบ	ประมาณ 2 .30 ชั่วโมง

 

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

อายุุที่รับ	รับเด็กที่เกิด 1 ธ.ค. 2557 - 30 พ.ย. 2558 โดยนับอายุถึงวันที่ 31 พ.ค.2563
จำนวนที่รับ	100 คน โดยไม่แบ่งช่วงอายุเด็ก
ขาบใบสมัคร	ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์
สอบ	กลางเดือนมีนาคม
ประกาศผลสอบ	ปลายเดือนมีนาคม
วิชาที่สอบ	ข้อสอบเชาว์ ,ภาษาไทย , ความพร้อม และคณิตศาสตร์
เวลาทีสอบ	ประมาณ 2 .30 ชั่วโมง

 

 

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ     อายุุที่รับ                                              รับเด็กที่เกิด 1 มิ.ย. 2558  - 31 พ.ค. 2559 โดยนับอายุถึงวันที่ 31 พ.ค.2563 จำนวนที่รับ 100 คน โดยไม่แบ่งช่วงอายุเด็ก โดยจะเข้าเรียนชั้นอนุบาล 3  ขาบใบสมัคร  ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ สอบ กลางเดือนมีนาคม ประกาศผลสอบ ปลายเดือนมีนาคม วิชาที่สอบ  ภาษาไทย   ,  ความพร้อม  และคณิตศาสตร์

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง   อายุุที่รับ                                             รับเด็กที่เกิด 1 มิ.ย. 2557 - 31 พ.ค. 2558 โดยนับอายุถึงวันที่ 31 พ.ค.2563 จำนวนที่รับ 100 คน โดยไม่แบ่งช่วงอายุเด็ก ขาบใบสมัคร ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน สอบ กลางเดือนมกราคม ประกาศผลสอบ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ วิชาที่สอบ เน้นภาษาไทย , ความพร้อม

*************************************************************************************************************

 

                             ข้อแนะนำในการเตรียมตัว

 

                                         การเตรียมตัวลูกเพื่อลงสนามสอบสาธิต

 

                หลังจากเรารู้แล้วว่าลูกเราต้องลงสนามสอบปีนี้   ขั้นต่อไปคือการเตรียมตัวสอบ   ถ้าให้เปรียบ   ลูกเราก็ เหมือนนักมวยกำลังจะขึ้นชิงแชมป์โลก ซึ่งต้องเตรียมตัวอย่างมากเพราะไม่ได้ชกธรรมดา  เป็นการชิงแชมป์โลกซะด้วย นักมวยต้องทำร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายทุกวัน ต้องวิ่ง ต้องกระโดดเชือกต้องมีคู่ซ้อมบนเวที ลูกเราก็เหมือนกัน 

            เราต้องเตรียมตัวลูกให้ร่างกายแข็งแรง   ปีนี้คงต้องลดการไปเที่ยวทะเล  หรือต่างประเทศลงบ้างเพราะอาจทำให้ลูกป่วย และต้องฝึกซ้อมทำข้อสอบ ทำแบบฝึกหัด และอ่านหนังสือทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยดูแลลูก แต่ถ้าเราคิดว่าไม่อยากทำอะไรเพิ่ม กลัวลูกเครียด กลัวลูกเหนื่อย ถึงวันสอบก็ไปสอบคงพอคาดเดาออก นะคะ ว่าวันประกาศผลสอบ
       

                   ครูปัทไม่ได้บอกว่าต้องส่งลูกไปติวที่นั่นที่นี่  หรือติวกับครูปัท   แต่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ติวลูกเอง คุณพ่อคุณแม่ สามารถเป็นติวเตอร์ได้เช่นกัน  โดยการที่พ่อหรือแม่ตกลงกันว่าใครสามารถสอนลูกได้ ควบคุมอารมณ์ลูกไหว หรือใครหลอกล่อเก่ง  ก็คนนั้นแหละคะสอนลูก คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มด้วยการซื้อหนังสือ หรือดูจากเวบต่างๆ เพื่อหาแนวข้อสอบ ดูในเวบเศรษฐบุตรนี้ก็ได้ และมาเปรียบเทียบกับแบบฝึกหัดที่ขายทั่วๆไปว่าคล้ายกันไม๊ เนื้อหาเป็นอย่างไร และค่อยๆทำความเข้าใจกัน ก่อนจะสอนลูก บางบ้านก็ใช้ของเล่นช่วยให้เข้าใจบทเรียนมากขึ้นบางบ้านก็ใช้ของจริงมาให้ลูกดูเพื่อทำให้เข้าใจมากขึ้น หลังจากนั้นก็เริ่มสอน ตั้งแต่วันนี้จนถึงก่อนสอบสักสองวันค่อยพักผ่อนเตรียมตัวลงสนามจริง

        ก่อนลงสนามสอบจริง  ควรได้ลองสนามสอบตามโรงเรียนต่างๆ  ที่เปิดสอบก่อน  เช่นเราอยากสอบสาธิตเกษตร   ก็ไปลองสนามสอบสาธิตราม, สาธิตประสานมิตรก่อน หรือประมาณเดือนตุลาคม โรงเรียนคาทอริกจะสอบกัน เราก็พาลูกไปลองสนาม หรือจะมาลงสนามสอบจำลองของครูปัทก็ได้ ซึ่งจะเปิดทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกรับสมัครประมาณสิงหาคมครั้งที่สองรับสมัครประมาณเดือนตุลาคม
                     

       อยากเล่าประสบการณ์จำลองสนามสอบของปีที่ผ่านๆมา    ครูปัทได้จัดจำลองสนาม   โดยรับนักเรียนผ่านเวบไซด์นี้ปรากฏมีคนสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมากรอบละหลายสิบคน จัดเป็นรอบเช้า กับรอบบ่าย จากการสังเกตเด็กๆ ทำให้รู้ว่าเด็กบางคนเก่งแต่พออยู่ห้องสอบ ไม่มีสมาธิเลย ไม่ยอมทำข้อสอบเอาแต่จะคุยกับเพื่อน ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันวันแรกแท้ๆ เมื่อเป็นอย่างนี้ครูปัทแจ้งผู้ปกครองทราบคุณพ่อก็คุยกับลูกว่า........ รุ่งขึ้นลูกมาเข้าสอบใหม่ก็ดีขึ้น(เห็นคุณพ่อบอกขู่ไว้เยอะ )

 

 

      หรือบางคนไม่เคยลงสนามสอบเลย   มาสอบวันแรกร้องไห้พร้อมดิ้นสุดฤทธิ์  ครูปัทก็ให้คุณแม่ปล่อย   และครูปัทก็ค่อยๆคุย   รุ่งขึ้นน้องก็เข้าสอบอย่างดี และวันสอบจริงที่สาธิต
ลูกศิษย์ครูปัททุกคนไม่ร้องไห้คะ น่าดีใจจริงๆ  ที่เล่ามาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่าหากเราเตรียมตัวลูกมาอย่างดี ทำข้อสอบเก่งมากแต่วันสอบจริงร้องไห้ดิ้นไปมาและไม่ยอมเข้าสอบ จะเป็นอย่างไร หากได้ลองลงสนามก่อนจะได้มีโอกาสแก้ตัว จริงๆที่เด็กๆร้องไห้เพราะเค้ากลัวว่าครูจะทำอะไรเขา ขึ้นไปบนห้องสอบจะน่ากลัวแค่ไหน แต่ถ้าเค้าได้ไปลองสอบสักทีจะรู้ว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเค้าก็จะไม่ร้องไห้

 

 

      ทั้งหมดที่กล่าวมานี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ลูกคนแรกเพิ่งลงสนามสอบหากมีข้อสงสัยโทร.มาคุยกับครูปัทได้ที่โรงเรียนอนุบาลเศรษฐบุตร หรือถามใน

เวบบอร์ดก็ได้คะ